Ads code

Distribution of Tai people ဢွင်ႈတီႈယူႇသဝ်းၽေႈၸွတ်ႈၵူၼ်းၶိူဝ်းတႆး

การกระจายตัวของกลุ่มชาติพันธุ์ไทซึ่งเป็นกลุ่มชนที่พูดภาษาตระกูลไท-กะได

Möng Kawng(Mogaung), Möng Mao Lông, Mong Tai (Federated Shan States (1922–1959) မိူင်းၵွင်၊ မိူင်းမၢဝ်းလူင်၊ မိူင်းႁူမ်ႈတုမ်ၸိုင်ႈတႆး

เมืองก๋อง(พม่าเรียก "โมกอง"),เมืองมาวหลวง, สหพันธรัฐฉาน(เมืองไต)

Möng Mao Lông(Mao Kingdom), The Confederation of Shan States မိူင်းမၢဝ်းလူင်ႇ မိူင်းတုမ်ၵႅၼ်ႇၸိုင်ႈတႆး

เมืองมาวหลวง,สมาพันธ์รัฐฉาน(ในศตวรรษที่ 16 ซึ่งพิชิตอาณาจักรอังวะในปี ค.ศ. 1527 และปกครองพม่าตอนบนจนถึงปี ค.ศ. 1555 )

Möng Mao Lông(Mao Kingdom) မိူင်းမၢဝ်းလူင်

อาณาจักรเมืองมาวหลวง, วีรบุรุษเจ้าหลวงเสือข่านฟ้า

Möng Kawng(Mogaung)မိူင်းၵွင် (မိူင်းၵွင်း)

เป็นรัฐของชาวไทใหญ่ที่มีกษัตริย์ปกครอง

08 เมษายน, 2552

เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ไต (ไทใหญ่) About Tai/Shan (Thaiyai)

ชาวฉาน ซาน หรือ ไทใหญ่ ที่เรียกตนเองว่า“ไต” (คนไตไม่เคยเรียกตนเองว่า “ซาน”) ส่วน มากอาศัยอยู่ในรัฐฉาน ในสหภาพพม่า คำว่า“ซาน” ในภาษาพม่า (หมายถึง “ไต”) นั้น ถูกสะกดเป็น คำต่างๆ ในจารึกของพุกาม(ค.ศ.1044-1334) และในจดหมายเหตุ หรือ หนังสือเก่าของพม่า ในพม่าสมัยใหม่ คนไต ถูกเรียกว่า “ซาน” เช่น เดียวกันกับคนไตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ไว้ในภูมิ ภาคต่างๆของพม่า
ชาวฉาน หรือ ซาน คือชนชาติไตเผ่าหนึ่ง ในเผ่าไท หรือไต (The Tai race) มีจดหมายเหตุทางประวัติศาตร์ ระบุไว้ว่า ดินแดนพม่าส่วนบนปัจจุบัน คือ ที่อยู่อาศัยเก่าของ พวกผิ่ว (Pyu) และฉาน (ไต) ก่อนมีการสถาปนา ของราชอาณาจักรพูกามประเทศ ขึ้น โดยพระเจ้าอหน่อระถ่า {the Pagan kingdom by Anawratha (1044-1077)} ของพม่า
ในภูมิภาคยูนนานปัจจุบัน ราชอาณาจักรเมืองมาว(Mao kingdom) ของชาวไต ดำรงอยู่นานถึง กระทั่งถูกราชวงค์หมิงของจีน ปราบปราม จากฐานที่นั้น ชาวไต ส่งการจู่โจมรุกคืบถึง พม่าส่วนบนและอัสสัมอยู่บ่อยๆ ต่อมาพวกเขามีอาณานิคมในบางส่วนของรัฐฉานทิศใต้และ ทิศเหนือ รัฐกะฉิ่น ในเขตสะกาย ของพม่าตอนบนปัจจุบัน และดินแดนทั้งหมดเหล่านี้ ถูกผนวกเป็น อาณานิคม (อยู่ภายใต้เจ้า แผ่นดินเจ้าศักดินา ) ของอาณาจักรเมืองมาว ในที่สุด ชาวไตสามารถควบคุมได้ พม่าส่วนบนทั้งหมด (all Upper Burma) ช่วงระยะเวลาฉาน ของประวัติศาสตร์พม่านั้น ดำรงอยู่ได้จาก ค.ศ.1300 จนกระทั่ง ปี ค.ศ.1540

อย่างไรก็ตามชาวไตในยูนนาน ถูกชาวจีนปราบราม ภายหลังสงครามต่อเนื่องสามครั้ง (ค.ศ.1441-1448) ความเสียหาย ครั้งสุดท้ายของประเทศไตในยูนนาน เกิดขี้นในปี1604 เมื่อถูก หน่วยทหารจีนโจมตีอย่างรวดเร็ว อาณาจักรเมืองมาว
ภายหลังการล่มสลายของราช อาณาจักรเมืองมาวในยูนนาน กำลังของชาวไตในพม่าก็อ่อนแอลง และในที่สุด ทำให้ได้แตกแยกเป็น อาณาเขตปกครอง ตนเองต่างๆ มากมาย ที่เรียกกันว่า นครรัฐ อันมีเจ้าฟ้าปกครองไว้ พัฒนาการ การเมืองและ ชีวิตความเป็นอยู่ ชาวไตในพม่า ได้ขึ้นอยู่กับ ประวัติ ศาสตร์ ทางการเมืองของพม่าอย่างมาก ผลสุดท้าย ชาวไตได้ถูกแบ่งแยกเป็นกลุ่มๆ ดังต่อไปนี้

1. ไตคำตี่ (the Khamti Shan) ชาวไต ที่อาศัยอยู่ในแคว้น คำตี่ ของเขตสะกาย (Sagaing Division) ของพม่าตอนบน (Upper Burma)

2. ไตมาว (the Mao Shan) ชาวไต ที่อาศัยอยู่ในหุบเขา และลุ่มแม่น้ำมาว (the Mao River valley)

3. ไตขึน หรือไตเขิน (the Gum (Hkun) Shan) ชาวไตที่ อาศัยอยู่ในมณฑลเชียงตุง ในรัฐฉานตะวัน ออก

ชาวไตนั้นอาศัยอยู่แพร่กระจายทั่วพม่า เช่นในรัฐฉาน (Shan state) รัฐกะฉิ่น (Kachin state) และเขตสะกาย (Sagaing division) รัฐและเขตต่างๆ ในพม่า ถูกกำหนดขึ้นระหว่างช่วงระยะเวลาการปกครองสหราชอาณาจักร (the British administration period 1885-1948)
ในช่วงเวลา ของกษัติย์พม่านั้น อาณาเขตของชาวไต ถูกตั้งชื่อ เรียกต่างๆนาๆ อย่างเช่น เซ็นไต "Saint Taing," ก่ำปอซ่าไต "Kambawza Taing," หาริปุนซ่าไต"Haripunza Taing," เข่หม่าวะระไต "Khemawara Taing," เป็นต้น
ในช่วงระยะเวลาอยู่ใต้อาณานิคมของอังกฤษ(1885-1948) พม่าถูกปรับปรุงจัดใหม่เป็น ระบบ รัฐ (states ) เขต (divisions) และ ผืนดินเนินเขา (hill tracts) รัฐฉานปัจจุบันถูกกำหนดขึ้น ระหว่างช่วงระยะเวลาอาณานิคมอังกฤษ และกลาย เป็น “สหพันธรัฐฉาน” (Federated Shan States) ในปี ค.ศ.1922 ส่วนที่เหลือ ของ อาณาบริเวณชาวไตในพม่า ถูกผนวกเข้าในเขตสะกาย(Sagaing Division) มิตรจีนา (Myitkyina) บะโหม่ (Bhamo) หรือ ม่านหม่อ หรือบ้านบ่อ และ แคว้น ปู่ต่าโอ่(Putao) หรือ ปู่เฒ่า หรือ ผู้เฒ่า ผลพวงทำให้ “รัฐไตภาคตะวันตกแม่น้ำอิระวดี” จึงได้หายไปจากประวัติศาสตร์ของคนไต
ด้วยอุปสรรคทางเชิงภูมิศาสตร์ ความยากลำบากในการสื่อสารหรือ การคมนาคม และระบบของการเมืองการปกครอง ตั้งแต่ตอนสมัยกษัติย์พม่า ได้แบ่งแยกชาว ไตออกจากกันและกัน จึงเกิดผลให้แต่ละกลุ่ม มีพัฒนาการ ตามแนวทาง วัฒนธรรมและ จารีตประเพณี ของตนเอง เรื่อยมา
ดังนั้น ชาวไตเหล่าที่ตั้งถิ่นฐานในภูมิภาค คำตี่ จึง ถูกเรียกว่า “ไตคำตี่ (Khamti Shan)” เหล่าที่ตั้งถิ่นฐาน ในหุบเขาแม่น้ำมาว จึงถูกเรียกว่า “ไตมาว (Mao Shan)” และชาวไตเหล่าในรัฐฉานตะวันออกก็เรียก “ไตเขิน หรือไตขึน (Hkuns)” เป็นต้น

ที่มา: ประวัติศาสตร์และพัฒนาการของตัวอักษรไต, 2004 จายคำเมือง
Sources: The History and Development of the Shan Script, 2004, Sai Kam Mong

06 เมษายน, 2552

รู้จักกับไทใหญ่ Intorducing Thai Yai (Tai)

ไทใหญ่ (ไทใหญ่ จะเรียกตัวเองว่า “ไต”) เป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มชาติพนธ์ตระกุลไต หรือไท
คนที่พูดภาษาตระกูลไต(Tai language)หรือไท มิใช่มีเฉพาะประเทศไทย แต่มีกระจายอยู่ทั่วไปในเอเซียอาคเนย์ โดยมีอยู่ในสิบสองปันนา (Xishuangbanna)ของจีน ในรัฐอัสสัม(Assam)ของอินเดีย ในรัฐฉาน(Shan State) ในพม่า ในไทย( Thailand) ในลาว(Lao) และเวียดนาม (Vietnam) ด้วยเหตุที่คนที่พูดภาษาตระกูลไต หรือไทเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมาก และอยู่ในที่ต่างกันห่างไกลกันอย่างนี้ ทำให้ภาษาพูด ภาษาเขียนผิดเพี้ยนแตกต่างกันไปบ้างตามกาลเวลา และท้องถิ่นนั้น ๆ

ลักษณะการอยู่อาศัยของชนชาติตระกูลไต หรือไทมักอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ และนำเอาชื่อท้องถิ่นที่อาศัยอยู่มาใช้ต่อท้ายคำว่า "ไต หรือไท" เช่น
ไตอาหม (อยู่รัฐอัสสัม) Tai Ahom people
ไตคำตี่(อยู่ในภาคเหนือของประเทศพม่า และในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย) Tai Khamti
ไตผาแก หรือ พ่าแก (อยู่ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย) Tai Phakae
ไตอ่ายทอน (อยู่ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย) Tai Ai-Ton
ไตมาว (อยู่เมืองมาว) Tai Mao
ไตใต้คง (อยู่ฟากใต้แม่น้ำคง) Tai Dehong or Taikhong
ไตเหนือคง (อยู่ฟากเหนือแม่น้ำคง หรือสาละวิน -Salween river) Tai Nue Khong
ไตใหญ่ (กลุ่มใหญ่ที่สุด) Tai Yai or Shan
ไตน้อย (ไทย) Tai noi or Thai
ไตโยน (อยู่ในแคว้นโยนก) Tai Yon or Kon Muang
ไตเขิน หรือไตขึน Tai Khuen
ไตดำ หรือ ไตหลำ Tai Dam or Black Tai
ไตขาว Tai Khao or White Tai
ไตแดง หรือ ไตแหลง Tai Daeng or Red Tai
ฯลฯ
ชนตระกูลไตเหล่านี้ แต่ละกลุ่มที่พูดสำเนียงเดียวกันจะอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่เป็นภูมิภาค หรือเป็นรัฐ แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันมาก ต่างก็เข้าใจว่า ภาษาที่ชนกลุ่มของตนพูดเป็นภาษาไต หรือภาษาไทแท้ ในส่วนศัพท์รากเหง้าของภาษานั้นเป็นคำเดียวกันและใช้พูดเหมือนกัน ก็เช่น
ข้าว กิน แขน ขา เข่า หัว ตัว ไป มา พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือช้าง ม้า วัว ควาย หมู หมา กา ไก่ เป็ด ฯลฯ
คำศัพท์เหล่านี้เป็นคำไต หรือไทแท้ ไตทุกกลุ่มจึงใช้ศัพท์เดียวกันนี้พูดและสื่อสารต่อกัน

ไทใหญ่เป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มชาติพนธ์ตระกุลไต (Tai language) อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของจีน รัฐอัสสัมของอินเดีย พม่าทางตอนเหนือ รัฐฉาน และทางภาคเหนือของไทย มีภาษาพูดและภาษาเขียนเฉพาะตน มีเอกลักษณ์การแต่งกายที่สวยงาม ประเพณีวัฒนธรรมส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนา กิจกรรมอันเนื่องด้วยประเพณีส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา มีจิตใจอ่อนโยนเพราะอาศัยกระบวนการขัดเกลาทางศาสนาและสังคม จึงดูเหมือนว่าถูกเอารัดเปรียบได้ง่าย

04 เมษายน, 2552

ความหมายของคำว่า “คนไท” และ “คนไทย” Define Tai and Thai People

  • “ไท(Tai)” หรือ "ไต" มีความหมายกว้างกว่า คำว่า “ไทย(Thai)” 
 ไท หมายถึง ไต ในสำเนียงชนชาติไต
“คนไท หรือ คนไต)” คือ บุคคลซึ่งพูดภาษาตระกูลไท (Tai Language) ไม่ว่า ไทลื้อ ไทใหญ่ ไทน้อย ไทเขิน ไทคำตี่ ไทอัสสัม ไทแดง ไทขาว ไทใต้คงหรือไทเหนือ เป็นคนไท หรือ คนไต ทั้งสิ้น ซึ่งกระจายตัวอยู่ เป็นวงกว้างในเอเชีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บุคคลเหล่านี้ มีขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติไท ซึ่งอาจจะแตกต่างกันได้ เป็นไปตามเผ่าแต่ละเผ่า
  • “คนไทย”(Thai) คือ (คนไทยในประเทศไทย) มีสัญชาติไทย และรวมถึงคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศต่าง ๆ ด้วย บุคคลซึ่งมีเชื้อชาติไทย พูดภาษาตระกูลไทย มีขนบธรรมเนียมประเพณีของคนเชื้อชาติไทย
บุคคลเหล่านี้ แม้ว่าอยู่ในประเทศไทย การใช้ภาษาและ ขนบธรรมเนียมประดพณี อาจจะแตกต่างกันได้ เป็นไป ตามเผ่าแต่ละเผ่า
สรูป คือ 
  • “คนไท” หรือ “คนไต” หมายถึง บุคคลซึ่งพูดภาษาตระกูลไท (Tai Language) ทั้งหมด 
  • คนไทย” คือ คนไทยในประเทศไทย และต่างประเทศ ที่มีสัญชาติไทย และอาจรวมถึงที่คนไทยที่ไม่มีสัญชาติไทยด้วย

01 เมษายน, 2552

ภาษาไทยและเผ่า(เครือ)ไตมีภาษาในการพูดเหมือนกัน 50% Thai & Tai words similar 50%

ภาษาไทยภาษาไต
พ่อแม่ ป้อแม่ (Parent)
กิน กิ๋น (Eat)
นอนนอน (Sleep)
ข้าหรือข้าพเจ้า ข้า,ข้าเฮา(เรียกตัวเอง) (I)
ข้าเฮาเขา (เป็นพหูพจน์) หมายถึงพวกเรา (We)
ท่านเจ้า (ใช้เรียกคู่สนทนาแบบให้เกียรติ) (You)
เจ้าเขา, สูเขา (เป็นพหูพจน์) หมายถึงพวกท่าน (You)
กูเก๋า (ข้าพเจ้า กู หรือ ฉัน) (I)
มึงใม(มา-อึ) (สำเนียงไม่มีในภาษาไทย) ท่าน, มึง (You)
กินข้าว กิ๋นเข้า (รับประทานข้าว) (Have a meal/rice)
หัวใจ หัวใจ๋ หรือ โหใจ๋ (Heart)
นานา (นา หรือทุ่งนา) (Field)
ไร่ ไฮ่ หรือไห้ (ไร่ หรือท้องไร่) (Farm)
วัว,ควายโว,กวาย (Cattle)
ช้าง, ม้า จ้าง, ม่า (Elephant, Horse)
หนึ่งหนึ้ง (One)
สองสอง (Two)
สามสาม (Three)
สี่สี่ (Four)
ห้าห้า (Five)
หกฮก (Six)
เจ็ดเจ๊ด (Seven)
แปดแปด (Eight)
เก้าเก้า (Nine)
สิบซีบ (Ten)